นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียกล่าวต่อสมัชชายูเอ็น ย้ำการต้องสืบสวน “ให้ถึงแหล่งกำเนิดแท้จริง” ของโรคโควิด-19 คำกล่าวที่มีแนวโน้มยิ่งสร้างความตึงเครียดกับจีน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ว่านายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน กล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ( ยูเอ็นจีเอ ) สมัยที่ 75 เมื่อวันศุกร์ มีเนื้อหาตอนหนึ่งเกี่ยวกับวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 ที่ผู้นำออสเตรเลียเรียกร้องประชาคมโลก “ร่วมกันตรวจสอบให้ถึงต้นตอ” เพื่อค้นหาแหล่งกำเนิดเชื้อโรค “ที่แท้จริง” ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดวิกฤติโรคระบาดใหญ่ครั้งใหม่

ขณะเดียวกัน มอร์ริสันกล่าวถึงประเด็นวัคซีน ว่าประเทศใดก็ตามที่ผลิตและได้รับการรับรองในระดับสากลก่อน ต้องแบ่งปันให้แก่ประเทศอื่นอย่างเท่าเทียมกัน “ตามหลักศีลธรรมและมนุษยธรรม” พร้อมทั้งยืนยันการมอบความสนับสนุนแก่โครงการโคแวกซ์ขององค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) ร่วมกับองค์กรพันธมิตรเพื่อวัคซีน ( กาวี ) เพื่อร่วมกันระดมทุนในการพัฒนา และจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มีวัตถุประสงค์เป็นการรับประกันว่า ทุกประเทศจะสามารถเข้าถึงวัคซีนได้โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ

อย่างไรก็ตาม ถ้อยแถลงของมอร์ริสันต่อยูเอ็นจีเอในประเด็นวัคซีน มีแนวโน้มสูงว่าจะยิ่งยั่นทอนความสัมพันธ์กับจีนให้เลวร้ายลงไปอีก จากการที่เมื่อต้นปีนี้ผู้นำออสเตรเลียกล่าวแบบเดียวกัน และต่อจากนั้นไม่นานรัฐบาลปักกิ่งเดินหน้าใช้มาตรการกดดันทางการค้าต่อออสเตรเลีย ไม่ว่าจะเป็นการระงับนำเข้าเนื้อวัว การตั้งกำแพงภาษีสูงลิ่วต่อข้าวบาร์เลย์ของออสเตรเลีย และการ “สอบสวน” เพื่อนำไปสู่การใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดไวน์ของออสเตรเลีย